วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2559

              หลักเศรษฐศาสตร์
อุปสงค์ต่อราคา (price demand) หมายถึง ปริมาณของสินค้าและบริการที่มีผู้บริโภคต้องการซื้อ ณ ระดับราคาต่าง ๆ ของสินค้าและบริการชนิดนั้น ๆ ในระยะเวลาที่กำหนด โดยสมมติ กำหนดให้ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคอื่น ๆ คงที่ เช่น
                       - หากต้องการศึกษาอุปสงค์ต่อราคาของสินค้า ก. นั้น ก็จะพิจารณาเฉพาะการเปลี่ยนแปลงไปในราคาสินค้า ก. อย่างเดียว ว่ามีผลกระทบต่อความต้องการของผู้บริโภคอย่างไร โดยที่สมมติ กำหนดให้ปัจจัยอื่น ๆ เช่น รายได้ของผู้บริโภค ราคาสินค้าชนิดอื่น (สินค้า ข.) ที่เกี่ยวข้องไม่เปลี่ยนแปลง เป็นต้น

               อุปสงค์ต่อรายได้ (income demand) หมายถึง ปริมาณของสินค้าและบริการที่มีผู้บริโภคต้องการซื้อ ณ ระดับรายได้ต่าง ๆ กัน ในระยะเวลาที่กำหนด โดยสมมติ กำหนดให้ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคอื่น ๆ คงที่ เช่น
                       - หากต้องการศึกษาอุปสงค์ต่อรายได้ของนาย ก. ที่มีต่อสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่ง ก็จะพิจารณาเฉพาะการเปลี่ยนแปลงไปในรายได้ของนาย ก. อย่างเดียว ว่ามีผลกระทบต่อความต้องการในสินค้านั้น ๆ อย่างไร โดยที่สมมติ กำหนดให้ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ราคาของสินค้าชนิดนั้น ราคาสินค้าชนิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไม่เปลี่ยนแปลง เป็นต้น

               อุปสงค์ต่อราคาสินค้าชนิดอื่นที่เกี่ยวข้อง (cross demand) หมายถึง ปริมาณของสินค้าและบริการที่มีผู้บริโภคต้องการซื้อ ณ ระดับราคาต่าง ๆ ของสินค้าและบริการชนิดอื่นที่เกี่ยวข้องกัน ในระยะเวลาที่กำหนด โดยสมมติ กำหนดให้ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคอื่น ๆ คงที่ เช่น
                 - หากต้องการศึกษาอุปสงค์ต่อราคาสินค้าชนิดอื่นที่เกี่ยวข้องกัน หากว่าเราบริโภคสินค้า ก. เป็นประจำ ในกรณีของการศึกษาดังกล่าวก็จะพิจารณาเฉพาะการเปลี่ยนแปลงไปในราคาสินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า ก. เช่น สินค้า ข. ว่ามีผลกระทบต่อความต้องการสินค้า ก.ที่เราบริโภคเป็นประจำนั้นอย่างไร โดยที่สมมติ กำหนดให้ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ราคาของสินค้าชนิดนั้น รายได้ของผู้บริโภค ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นต้น

 การประกันราคาขั้นต่ำ (Price support) คือ การกำหนดราคาซื้อขายไว้สูงกว่าราคาดุลยภาพ (ซึ่งนักศึกษาก็ได้เรียนไปแล้วว่าณ จุดดุลยภาพนั้นเป็นจุดที่ปริมาณความต้องการซื้อเท่ากับปริมาณความต้องการขายพอดี)  ทั้งนี้ก็เพื่อยกระดับราคาสินค้าที่ต่ำเกินไปนั่นเอง  ส่วนใหญ่เป็น สินค้าการเกษตร

        แล้วทำไมต้องประกันราคาขั้นต่ำ หล่ะ??

        ปกติถ้าเราปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดก็จะต้องมีการซื้อขายกันที่จุดดุลยภาพ   ซึ่งรัฐบาลมองว่าราคาดุลยภาพเป็นราคาที่ต่ำเกินไป  เรียกได้ว่าพ่อค้าคนกลางมักจะซื้อสินค้าเกษตรในราคาที่ต่ำ   ทำให้รัฐบาลต้องเข้ามาแทรกแซงค่ะ  โดยกำหนดราคาขั้นต่ำสูงกว่าราคาดุลยภาพนั่นเอง

        มาตรการที่ 1 รัฐบาลรับซื้ออุปทานส่วนเกิน(Excess  Supply)

        โดยรัฐบาลจะตั้งราคาประกันขั้นต่ำและต้องมีการซื้อขายกันที่ราคานี้  ไม่อย่างนั้นจะผิดกฎหมาย   คราวนี้ลองคิดดูนะคะว่าถ้าเราเป็นผู้ซื้อแล้วเจอราคาที่สูงกว่าราคาดุลยภาพ(ราคาที่เรายอมรับได้) นักศึกษาจะอยากซื้อหรือไม่ แต่ที่แน่ๆผู้ขายคือเกษตรกรชอบแน่นอน

        คราวนี้จึงเกิดอุปทานส่วนเกินขึ้นคือปริมาณความต้องการขายมากกว่าปริมาณความต้องการซื้อ     สินค้าเกษตรก็จะเหลือใช่มั้ยคะ

        คำถามคือ รัฐบาลจะจัดการกับสินค้าเกษตรอย่างไร???   

         1. รัฐบาลจะรับซื้ออุปทานส่วนเกินทั้งหมด  จึงต้องมีงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาล(ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก Powerpointค่ะ)

          2. ต้องเตรียมไซโลไว้รองรับสินค้าเกษตรที่รัฐบาลรับซื้อ

         คำถาม   สินค้าที่รับซื้อจะนำไปทำอะไร

          1. ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน  เช่น  น้ำท่วม  ภาวะแห้งแล้ง

          2. บริจาคต่างประเทศที่ประสบปัญหาด้านต่างๆ

          3. นำออกจำหน่ายในตลาด

         คำถาม รัฐบาลจะมีหนทางอื่นอย่างไร

         1. รัฐบาลหาทางลดการผลิตให้น้อยลง  โดยชักชวนหรือส่งเสริมให้เกษตรกรหันไปปลูกพืชอื่นที่รายได้ดีกว่า

         คราวนี้ลองมีดูสภาพความเป็นจริงกันบ้าง   ยกตัวอย่างเช่น การประกันราคาข้าวเปลือก  สามารถทำได้บางพื้นที่  เพราะฉะนั้นเราควรเรียกว่า

          "การพยุงราคา" คือ การที่รัฐบาลดำเนินการรับซื้อผลผลิตเฉพาะในบางท้องที่  เพื่อกระตุ้นให้ราคาตลาดสูงขึ้น  

          นักศึกษาท่านใดที่สนใจทำรายงานเรื่องนี้สามารถค้นคว้าเพิ่มเติม  โดยมองจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบันด้วยค่ะ    

                   

   การกำหนดราคาขั้นสูง(Price Ceiling)

            - รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงการทำงานของกลไกราคาในตลาดที่มีการแข่งขัน   จะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น  เพราะมองว่าราคาสินค้าในตลาดสูงเกินไป  จะทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อน

            - รัฐบาลจะกำหนดราคาซื้อขายสินค้าไว้ต่ำกว่าราคาดุลยภาพเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค         

            คำถาม: รัฐบาลจะทำอย่างไร ???      

            1. เข้าแทรกแซง  โดยการกำหนดราคาขั้นสูง  

               -  กรณีนี้จะเกิดอุปสงค์ส่วนเกิน (Excess  Demand)  ตามทฤษฎี  จริงมั้ยคะ  เพราะถ้ารัฐบาลประกันราคาต่ำกว่าราคาดุลยภาพ  ของถูกผู้ซื้อชอบ  แต่ผู้ขายไม่ชอบ   จึงเกิดสินค้าขาดแคลนขึ้น

               -  จึงเกิดปัญหาตลาดมืด(Black  Market)  มีการลักลอบขายสูงกว่าราคาประกันขั้นสูง

              2. ถ้ารัฐบาลต้องการตรึงราคาไว้ที่ ราคาประกันขั้นสูง

              -   ต้องลดอุปสงค์ต่อสินค้านั้นให้เท่ากับอุปทาน ณ ระดับราคาประกันขั้นสูง  เช่น

              -   นโยบายการปันส่วนสินค้า   (ผู้บริโภคจะซื้อเกินสิทธิที่ให้ไม่ได้)

                  โดยการแจกคูปองแสดงสิทธิในการซื้อสินค้า

              -   การนำสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาให้เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค      

1 ความคิดเห็น: